ข้อแตกต่างระหว่างมาร์การีนและเนย

มาร์การีน คือ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผักและไขมันผักผ่านกระบวนการที่ทำให้มีลักษณะคล้ายกับเนย การผลิตมาร์การีนนั้นเริ่มจากการผสมน้ำมันและน้ำให้เข้ากันรวมไปถึงส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้เนื้อสัมผัสมีลักษณะคล้ายกับเนยอย่างมากที่สุด ซึ่งมักทำให้มาร์การีนนั้นถูกเรียกว่า ""เนยเทียม"" อยู่บ่อยครั้ง มีสีเหลืองอ่อนหรือขาวมาพร้อมเนื้อสัมผัสอ่อน นุ่ม และครีมมี่ ในส่วนของรสชาตินั้นก็จะคล้ายคลึงกับเนย ทำให้เป็นวัตถุดิบที่ผลิตขึ้นเพื่อใช้ทดแทนรสชาติและกลิ่นของเนยในการทำอาหารเพื่อลดค่าใช้จ่าย 

ปัจจัยที่ส่งผลให้มาร์การีนนั้นถูกใช้อย่างแพร่หลาย 

ในปัจจุบัน ผู้บริโภคหันมาเลือกรับประทานมาร์การีนด้วยเหตุผลเหล่านี้:
1. คุ้มค่าและช่วยลดต้นทุน: มาร์การีนนั้นมีราคาที่ถูกกว่าเนยปกติ สามารถช่วยลดต้นทุนในการประกอบอาหาร 
2. สะดวกและเก็บได้ง่าย: มาร์การีนมีวันหมดอายุที่นานกว่า และสะดวกในการใช้ ในขณะที่เนยนั้นอาจจะมีความยุ่งยากในการเก็บรักษาและใช้งาน 
3. คุณภาพ: มาร์การีนนั้นมีกระบวนการผลิตที่เสถียรและควบคุมคุณภาพได้ดีกว่า ในขณะที่คุณภาพของเนยนั้นอาจมีปัจจัยหลายอย่างที่มีผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็นประเภทของนมที่ใช้ หรือขั้นตอนการผลิต 

ประโยชน์ต่อสุขภาพจากการบริโภคมาร์การีน

การบริโภคมาร์การีนในปริมาณที่เหมาะสมนั้นสามารถให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพได้: 
1. ปริมาณไขมันอิ่มตัวต่ำ: มาร์การีนนั้นมีปริมาณไขมันอิ่มตัวที่ต่ำกว่าเนย ช่วยลดความเสี่ยงที่จะรับไขมันประเภทที่ไม่ดีเข้าไปในร่างกายที่ส่งผลให้เกิดโรคหัวใจ และโรคเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด 
2. รักษาสุขภาพหัวใจ: มาร์การีนนั้นเป็นทางเลือกที่ดีถ้าต้องการรักษาสุขภาพหัวใจเนื่องจากมีปริมาณไขมันอิ่มตัวที่ต่ำ ทำให้ช่วยลดการเพิ่มขึ้นของคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ 
3. อุดมไปด้วยวิตามิน และไขมันดี: มาร์การีนนั้นอาจจะมีส่วนประกอบของวิตามิน E และไขมันดี ซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญในการช่วยบำรุงผิวและสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
4. รสชาติและกลิ่น: มาร์การีนมีรสชาติและกลิ่นที่คล้ายเนย ทำให้ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการทำอาหารและเบเกอรี่
5. คุณภาพสูงและสะอาด: มาร์การีนที่มีคุณภาพสูงนั้นมักจะผลิตในกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและสะอาด ด้วยวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นออกมาคงคุณภาพ และมีความสะอาด 
6. บลูแบนด์มาร์การีนอุดมไปด้วยวิตามิน A, D, E รวมไปถึงโอเมก้า 6 และ 9

วิธีการเลือกมาร์การีน 

เลือกซื้อผลิตภัณฑ์พรีเมี่ยมอย่างบลูแบนด์ที่ลูกค้าทุกคนสามารถเชื่อมั่นในคุณภาพ ด้วยต้นกำเนิดยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1923 จากประเทศเนเธอร์แลนด์ 

ประโยชน์ของการประกอบอาหารด้วยมาร์การีน

อย่างที่ได้พูดถึงไปก่อนหน้านี้ มาร์การีนถูกใช้อย่างแพร่หลายไม่ว่าจะสำหรับเพิ่มรสชาติอาหาร, อบขนม, ประกอบอาหาร และอื่นๆ 
1. รสชาติและกลิ่น: มาร์การีนมีรสชาติและกลิ่นที่คล้ายกับเนย ซึ่งอาหารที่ทำจากมาร์การีนนั้นมักจะมีความนุ่ม ความหอม และรสชาติที่ดีกว่า 
2. ความครีมมี่: ด้วยเนื้อสัมผัสที่นุ่ม และครีมมี่จึงเหมาะกับการใช้ทาขนมหรือประกอบอาหาร ซึ่งช่วยให้อาหารนั้นมีความนุ่มและเนื้อสัมผัสที่ดีตามไปด้วย 
3. ใช้ในเมนูทอดได้: มาร์การีนทนทานต่อความร้อนสูง ทำให้อาหารทอดมีสีทองสวยงาม มีเนื้อที่เนียนนุ่ม และยังทำให้แป้งด้านนอกกรอบยิ่งขึ้นอีกด้วย 
4. การผสมและการเพิ่มรสชาติ: มาร์การีนนั้นสามารถใช้ในการผสมร่วมกับวัตถุดิบอื่น ๆ สำหรับการประกอบอาหารไม่ว่าจะซอสหรือซุป  ช่วยเพิ่มทั้งรสชาติและกลิ่นที่หอม พร้อมดึงเอกลักษณ์ของอาหารนั้นให้เด่นยิ่งชึ้น 
5. ยกระดับเมนูของหวาน: ด้วยรสชาติที่อร่อยของมาร์การีน จะช่วยให้เมนูของหวานมีเนื้อสัมผัสที่มีความนุ่มและแน่นที่มากกว่าเดิม เพื่อช่วยยกระดับเมนูเหล่านั้น ให้มีคุณภาพ น่าทาน และรสชาติดี